วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กติกาหมากฮอส และ หมากรุก

ข้อมูลจาก http://www.thaisportworld.com/content/view/28/51/1/3/

กฎกติกาหมากฮอส


ข้อ 1 ความหมายของกีฬาหมากฮอส
หมากฮอสเป็นกีฬาพื้นบ้านของไทย นิยมเล่นกันโดยทั่วไปทุกเพศ ทุกวัย เป็นกีฬาที่เล่นกันระหว่างผู้เล่น 2 คน โดยการเดินหมากไปบนกระดานสี่เหลี่ยมจัตุรัส เอาชนะแก่กัน เมื่อผู้เล่นฝ่ายแพ้หมดตาเดินหรือหมดตัวเดิน หรือยอมแพ้ หรือถูกปรับให้แพ้

ข้อที่ 2 อุปกรณ์การเล่น
กระดานหมากฮอส เป็นกระดานรูปสี่เหลี่ยมรูปจัตุรัส มี 64 ช่อง เช่นเดียวกับกระดานหมากรุกของไทย แบ่งด้านกว้าง ด้านยาว เป็น 8 ช่อง ทาสี 2 สีสลับกัน ตัวหมากทำด้วยไม้หรือพลาสติก รูปวงกลม เหมือนตัวเบี้ย หมากรุกไทย แต่ขนาดใหญ่กว่า มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม. การแข่งขันหมากฮอสประเภท 8 ตัว จะมีหมากทั้งหมด 16 ตัว แบ่งเป็นหมากขาวและหมากดำฝ่ายละ 8 ตัว การแข่งขันประเภทหมาก 12 ตัว (นิยมเล่นกันทางภาคเหนือโดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่) มีหมากทั้งหมด 24 ตัว แบ่งเป็นหมากขาวและหมากดำฝ่ายละ 12 ตัว

ข้อ 3 การตั้งหมาก
ตำแหน่งเริ่มต้นก่อนการเดินหมาก ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายนั่งหันหน้าเข้าหากัน วางกระดานไว้ตรงกลางระหว่างผู้เล่น หมากฮอสประเภทตัวหมาก 8 ตัว วางตำแหน่งหมากอยู่ที่ช่องตาเดินสีดำ แถวหลังสุด และแถวถัดขึ้นมา แถวละ 4 ตัว หมากฮอสประเภทตัวหมาก 12 ตัว วางตำแหน่งหมากอยู่ในช่องตาเดินสีดำแถวหลังสุด และแถวถัดขึ้นมาอีก 2 แถวๆ ละ 4 ตัว

ข้อ 4 กรรมการผู้ตัดสิน
กำหนดให้มีกรรมการผู้ตัดสิน 1 คน ต่อคู่แข่งขัน 1 คู่ ทำหน้าที่ต่อไปนี้
ควบคุมการแข่งขันให้เป็นไปตามกฎ กติกา มารยาท หากมีข้อขัดแย้ง ผู้ตัดสินมีหน้าที่พิจารณาข้อขัดแย้งนั้น พร้อมบันทึกผลการแข่งขันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนการแข่งขัน เรียกนักกีฬาเข้าประจำโต๊ะแข่งขันพร้อมกับดำเนินการเสี่ยงให้กับนักกีฬาทั้ง 2 ฝ่าย ผู้ใดชนะการเสี่ยงจะมีสิทธิเลือกเดินก่อนหรือหลังได้ ก่อนเริ่มแข่งขันกรรมการผู้ตัดสินต้องขาดว่า กระดานที่คุณเดินก่อนเมื่อจบการแข่งขันในกระดานนั้นกรรมการต้องแจ้งผลการแข่งขัน กระดานที่คุณชนะ ต่อไปกระดานที่คุณเดิน ในระหว่างการแข่งขัน การจับเวลาเดินหมาก กรรมการผู้ตัดสินจะ เตือนเมื่อเวลาผ่านไป 1 นาที 30 วินาที พร้อมกับยกป้ายเตือนสีเหลือง เมื่อเวลาผ่านไป 1 นาที 50 วินาที กรรมการผู้ตัดสินจะเตือนด้วยป้ายสีเหลืองอีกครั้ง เมื่อครบ 2 นาที กรรมการจะยกป้ายสีแดงถือว่า แพ้ในกระดานนั้นแล้วกรรมการผู้ตัดสินได้ตัดสินแล้วจะอุทรณ์อื่นใดมิได้
ในกรณีหมากเดินวนเวียนไปมาเป็นเวลานานพอสมควรจะกำหนดให้ฝ่ายขอใช้สิทธิดินหมากต่อไปอีก 16 ครั้ง โดยนักกีฬาผู้ร้องขอเป็นผู้นับ และกรรมการผู้ตัดสินต้องนับทวนเสมอ หากมีข้อขัดแย้งอันใดให้อยู่ในดุลยพินิจของกรรมการผู้ตัดสิน
กรณีนักกีฬากระทำผิด กฎ กติกา มารยาท อย่างร้ายแรง เช่น สูบบุหรี่ เสพของมึนเมา แสดงกิริยาวาจาดูถูกเสียดสี ล้อเลียน ยั่วยุอารมณ์ หรือทำลายสมาธิผู้ร่วมแข่งขัน กรรมการผู้ตัดสินสามารถพิจารณาให้ใบแดง หรือเชิญออกจากการแข่งขันได้ ถือว่าแพ้เกมการแข่งขันนั้น กรณีผู้ชม ห้ามพูดวิจารณ์การเดินหมาก อันเป็นการทำลายสมาธิผู้แข่งขัน หรือส่อเจตนาไปในแนวทางที่จะเป็นการส่งสัญญาณ กรรมการผู้ตัดสินสามารถเชิญออกนอกบริเวณการแข่งขันได้ เกี่ยวกับตัวกรรมการผู้ตัดสินในแต่ละคู่ที่แข่งขัน ในกรณีที่มีเหตุผลอันควร ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันมีอำนาจที่จะเปลี่ยนตัวกรรมการได้

ข้อ 5 การเดินหมาก
การเดินหมากให้ใช้วิธีจับตัววางตาย คือ ผู้เล่นสัมผัสหมากตัวใด ต้องจับตัวนั้นเดิน เปลี่ยนไปจับตัวอื่นไม่ได้ เว้นแต่หมากตัวที่สัมผัสนั้นไม่มีตาเดิน เมื่อจับหมากเดินและวางหมากลงที่ตาใด แม้ยังไม่ปล่อยมือ ก็จะเปลี่ยนไปวางตาอื่นไม่ได้ เว้นแม้แต่หมากตัวนั้นไม่มีตาเดินหรือคู่แข่งขันเตือนว่ามีหมากตัวอื่นมีโอกาสกินได้ กำหนดให้มีการเสี่ยงเพื่อหาผู้มีสิทธิเลือกเดินหมากก่อน-หลังในกระดานแรก ผู้เสี่ยงชนะสามารถเลือกเดินก่อนหรือหลังก็ได้ ต่อไปให้ผลัดกันเดินก่อนคนละ 1 กระดาน
ขณะที่ยังไม่เดินหมาก ห้ามยื่นมือเข้าไปในกระดาน หรือทำท่าชี้จะเดินหมากตัวต่างๆ ในกระดาน หากต้องการขยับตัวหมากจัดให้ตรงตามตำแหน่ง ต้องขออนุญาตก่อน โดยบอกว่า ขอจัดหมาก ถ้าผู้แข่งขันฝ่ายหนึ่งผิดกฎ กติกา มารยาท เช่น จงใจเดินข้ามตาหรือไม่กินหมากฝ่ายตรงข้าม ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของตนเองแต่คู่แข่งขันไม่ทักท้วงหรือเตือน ก่อนจะเดินหมากขงตนเองให้ถือว่าการแข่งขันเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎ กติกา มารยาท แล้ว ผู้เล่นที่กระทำผิดระเบียบขณะเดินหมาก และคู่แข่งขันได้ทักท้วงก่อนที่จะเดินหมากของตนเอง กรรมการจะยกใบเหลืองเตือน 2 ครั้งหากยังฝ่าฝืนอีกเป็นครั้งที่ 3 กรรมการจะยกใบแดงตัดสินให้แพ้กระดานนั้นหรือตลอดการแข่งขันก็ได้ การตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สุด จะอุทธรณ์อื่นใดมิได้
เวลาที่ใช้ในการเดินหมากแต่ละครั้ง กำหนดให้ครั้งละ 2 นาทีเมื่อเวลาผ่านไป 1 นาที 30 วินาที กรรมการผู้ตัดสินจะยกป้ายเหลืองเป็นสัญญาณเตือนว่า เหลือเวลาคิดไตร่ตรองอีก 30 วินาที เมื่อเวลาผ่านไป 1 นาที 50 วินาที กรรมการจะยกธงเหลืองเตือนเป็นครั้งที่ 2 เมื่อครบ 2 นาที กรรมการจะยกธงแดงเป็นสัญญาณให้เดินหมาก ถ้าไม่เดิน จะถูกปรับแพ้ในกระดานนั้น
ในแต่ละกระดานที่แข่งขัน ผู้แข่งขันมีสิทธิขอเวลานอกหรือเวลาพิเศษเพื่อคิดไตร่ตรอง แต่ละฝ่ายกระทำได้ 2 ครั้งๆ ละ 5 นาที หรือจะขอ 10 นาที แต่ขอได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น การขอเวลานอก ผู้ขอต้องแจ้งให้กรรมการผู้ตัดสินทราบล่วงหน้าก่อนจะถูกกรรมการยกธงแดงเตือนให้เดินหมาก ตัวหมากที่ถือเป็น ฮอสได้แก่ตัวหมากที่เดินไปถึงตาที่อยู่แถวหลังสุดของฝ่ายตรงข้าม ให้คู่แข่งขันใช้หมากสีเดียวกันอีกตัวหนึ่งวางซ้อนไว้ เป็นสัญลักษณ์ของการเป็น ฮอสซึ่งตัวหมากที่เป็น ฮอสสามารถเดินหน้า หรือถอยหลังได้ตามทแยงทั้ง 4 ด้านโดยไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เดินและ ฮอสสามารถกินได้หลายต่อ ได้หลายแบบ เลือกกินแบบใดก็ได้

ข้อ 6 การกินหมาก
การกินหมาก จะเกิดขึ้นได้เมื่อหมากของฝ่ายหนึ่งขวางทางเดินหมากของอีกฝ่ายหนึ่ง และมีตาว่างอยู่ในแนวเดียวกัน กับหมากที่ขวาง ฝ่ายที่ถูกขวางต้อง กินโดยจับหมากของตนเองที่ถูกขวางทางอยู่ไปวางที่ตาว่างนั้น แล้วยกหมากที่ถูกกิน ออกจากกระดาน การกินหมาก ทั้งหมากประเภท 8 ตัว และ 12 ตัว ให้กินกลับไปกลับมาได้หลายต่อ โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้กินกรณีอีกฝ่ายหนึ่งถูกกินแต่ฝ่ายกินมองไม่เห็นหรือเผลอเรอ ฝ่ายถูกกินจะบังคับให้กินหรือปล่อยเลยตามเลยก็ได้ โดยกรรมการไม่มีสิทธิเตือน เมื่อมีโอกาสกินหลายแบบ หลายต่อ ฝ่ายกินต้องแสดงการกินที่ละตัวให้ชัดเจน จนกว่า การกินจะสิ้นสุดลง โดยห้ามจับตัวหมากของผู้แข่งขันก่อนการกินมิฉะนั้นจะถูกบังคับให้กินได้

ข้อ7 กฎ กติกา ว่าด้วยการแพ้ชนะ
ผู้แข่งขันทั้ง 2 ฝ่าย จะแพ้ หรือชนะ กันและกัน ในแต่ละกระดานเกิดจากกรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้
ฝ่ายแพ้หมดตัวเดิน
ฝ่ายแพ้หมดตาเดิน
ฝ่ายแพ้ยอมแพ้
ถูกปรับให้แพ้ ซึ่งจะเกิดจากกรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้
ไม่ยอมปฎิบัติตามกฎ กติกา มารยาทของการแข่งขัน กรรมการเตือนแล้วแต่ยังไม่เชื่อฟัง
ไม่ยอมปฎิบัติตามคำเตือนของคู่แข่งขันอันถูกต้องตามกฎ กติกา การเดิหมากข้อ 5
มีการจงใจเอาตัวหมากออกไปหรือเพิ่มเข้ามา หรือจงใจทำให้ตัวหมากเคลื่อที่ตั้ง
ใช้ตำรา หรือเอกสารเกี่ยวกับวิธีเดินหมากฮอสมาช่วยในการคิดไตร่ตรองการเดินหมาก
ขออนุญาตเข้าห้องน้ำ หรือไปทำธุรกิจใดๆ แล้วใช้กระดานทดลองเดิน
มาทำการแข่งขันช้ากว่าเวลาที่กำหนด 20 นาที เว้นแต่คู่แข่งและคณะกรมการฯ ยินยอมกฎ กติกา การถูกปรับ แพ้ ข้อ (1) ถึง

ข้อ (6)เป็นการปรับแพ้เฉพาะในกระดานที่แข่งขัน
มาทำการแข่งขันช้าเกินกว่าเวลาที่กำหนด 60 นาที ถูกปรับให้แพ้ในรายการที่แข่งขันในวันนั้นๆ

ข้อ 8 กฎ กติกา ว่าด้วยการเสมอ
ผู้แข่งขันทั้ง 2 ฝ่าย ผลแข่งขันจะเสมอกัน เกิดจากกรณีใดกรณีหนึ่ง
ต่อไปนี้
การแข่งขันยังไม่มีผลแพ้ชนะ และคู่แข่งขันสมยอมให้เสมอกัน
มีการเดิน หมากล้อเลียนกันเกินกว่า 3 ครั้ง
มีการเดิน หมากวนเวียนไปมา เป็นเวลานานพอสมควรแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะแพ้ชนะกัน ในกรณีนี้ผู้แข่งขันฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีสิทธิขอจำกัดจำนวนครั้งที่จะเดินเพื่อยุติการแข่งขันได้ หากกรรมการเห็นชอบจะกำหนดให้ฝ่ายที่ขอใช้สิทธิเดินหมากต่อไปอีก 16 ครั้ง โดยนักกีฬาผู้ร้องขอเป็นผู้นับและกรรมการเป็นผู้นับทวน เมื่อครบ 16 ครั้งแล้ว ปรากฏว่าสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้ถือว่าหมากเกมนั้น เสมอกันหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปให้แข่งขันต่อไปจนกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ

ข้อ 9 กฎ กติกา ว่าด้วยการนับคะแนน
การแข่งขันรอบแรก ซึ่งเป็นรอบคัดเลือก ให้แข่งขันชุดละ 4 กระดาน โดยแบ่งออกเป็นสายการแข่งขัน หรือกลุ่ม และกำหนดให้มีการนับคะแนนได้-เสีย ดังนี้
ชนะได้ 3 คะแนน เสมอได้ 1 คะแนน แพ้ได้ 0 คะแนน
เมื่อการแข่งขันแต่ละสายสิ้นสุดลง นับคะแนนรวมเท่ากัน ให้ใช้วิธีนับจำนวนผลต่างกระดานได้เสีย (กระดานชนะ-แพ้) หากผลต่างกระดานได้เสียยังเท่ากัน ให้ถือว่าผู้ที่มีกระดานชนะมากกว่า เป็นผู้ชนะ หากกระดานชนะเท่ากัน ให้นักกีฬาแข่งขันกันใหม่แบบ กระดานทองโดยเปลี่ยนเบี้ยเป็นฮอตในตาที่ 2 และ 31 สำหรับในกระดานที่ 2,3,4…ฯลฯ ให้เพิ่มฮอสฝ่ายละ 1 ตัว ในตาที่ 3 และ 30 จนกว่าจะมีผู้ชนะ
ในรอบแพ้คัดออก ซึ่งเป็นรอบที่ 2 รอบรองชนะเลิศ จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ให้แข่งขัน 6 กระดาน หากยังเสมอกัน ให้แข่งต่ออีก 4 กระดาน โดยใช้วิธีผลัดกันต่อเสมอเป็นฝ่ายแพ้โดยก่อนการแข่งขัน ให้มีการเสี่ยงทายกัน ผู้ที่เสี่ยงทายชนะสามารถใช้สิทธิเลือกให้คู่แข่งขันเดินก่อนหรือตัวเองเดินก่อนได้ เมื่อครบ 4 กระดานแล้วยังไม่สามารถชนะกันได้ ให้แข่งแบบ กระดานทอง

กฎกติกาหมากรุก

1.ก่อนการแข่งขันให้มีการเสี่ยง ผู้ชนะในการเสี่ยงมีสิทธิเลือกเดินก่อนหรือหลัง ส่วนกระดานที่ 2 ให้ทั้ง 2ฝ่าย สลับกันเดินโดยต้องเปลี่ยนข้าง สำหรับกระดานที่ 3เป็นต้นไปให้มีการเสี่ยงใหม่ในรอบที่มีการแข่งขันซึ่งกำหนดเวลาฝ่ายละ 1 ชั่วโมง 30 นาทีต่อกระดาน จะต้องมีการจดบันทึกแต้ม ฝ่ายที่เลือกเดินก่อนจะต้องเดินหมาก

สีขาว ทุกครั้ง

2.เมื่อถึงเวลากำหนดการแข่งขัน ถ้าผู้แข่งขันทั้งสองฝ่ายยังไม่มากรรมการจะกดนาฬิกาของฝ่ายดำ (ปกติจะวางอยู่ด้านขวามือของฝ่ายดำ) ถ้าผู้แข่งขันมาเพียงฝ่ายเดียวให้ฝ่ายนั้นกดนาฬิกาได้

เมื่อทั้งสองฝ่ายมาพร้อมที่จะทำการแข่งขันแล้ว ให้กรรมการเสี่ยงและตั้งเวลาใหม่ให้ถูกต้อง (ผู้ที่มาช้าจะเสียเวลาในการแข่งขันของตนเอง)

3.ในระหว่างการแข่งขัน ผู้แข่งขันจะต้องกดนาฬิกาด้วยตนเอง โดยใช้มือข้างที่เดินหมาก(ขวาหรือซ้ายก็ได้) ห้ามบุคคลภายนอกเตือน

ผู้แข่งขันเรื่องกดนาฬิกา เมื่อนาฬิกาของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเหลือเวลาไม่เกิน 5 นาที ให้แจ้งกรรมการทราบและตัดสินเมื่อนาฬิกาของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหมดเวลาลง (ธงตก)

4.เมื่อมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน ให้คู่แข่งขันหรือกรรมการหยุดนาฬิกาของทั้งสองฝ่ายเป็นการชั่วคราวจนกว่ากรรมการจะได้พิจารณาตัดสินปัญหาเรียบร้อยแล้ว จึงให้กรรมการกดนาฬิกาให้คู่แข่งขันทำการแข่งขันต่อไปจนจบกระดาน

5.ถ้ามีการกำหนดให้เวลาในการแข่งขันฝ่ายละ 1 ชั่วโมง 30 นาที ต่อกระดานขึ้นไป ผู้แข่งขันจะต้องจดบันทึกการเดินหมากด้วยตนเองทั้งของตนเองและของคู่ต่อสู้ ฝ่ายใดเหลือเวลาเพียง 3 นาที มีสิทธิไม่ต้องจดบันทึกการเดินหมาก แต่คู่ต่อสู้จะต้องจดต่อไปตามปกติจนกว่าจะเหลือเวลาเพียง 3 นาที จึงไม่ต้องจดเช่นเดียวกับฝ่ายแรก

6.ผู้ที่จดบันทึกการเดินหมากไม่ได้หรือไม่จดบันทึก จะหมดสิทธิในการแข่งขันรอบที่มีการจดบันทึกในการเดินหมากรุก

7.ผู้แข่งขันจับหรือถูกต้องหมากตัวใดแล้ว จะต้องเดินหมากตัวนั้นและเมื่อปล่อยตัวหมากลงในตาใดแล้วจะเปลี่ยนตาเดินใหม่ไม่ได้

ถ้าผู้แข่งขันจับ หรือถูกต้องหมากตัวใดแล้วเดินไม่ได้กรรมการจะอนุญาตให้เดินหมากตัวอื่นที่จับต่อไปถ้าผู้แข่งขันต้องการจะจัดหรือขยับตัวหมากให้ตั้งตรงตามตำแหน่งจะต้องบอกก่อนว่า ขอขยับตัวหมาก

8.เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่มีเบี้ยคว่ำ ฝ่ายหนึ่งเหลือขุนกับหมากตัวอื่นอีก ส่วนฝ่ายหนึ่งเหลือขุนเพียงตัวเดียวฝ่ายหลังมีสิทธินับตามศักดิ์

9.เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่มีเบี้ยคว่ำ ฝ่ายหนึ่งเหลือขุนกับหมากตัวอื่นอีก ส่วนฝ่ายหนึ่งเป็นรองมีสิทธินับศักดิ์กระดาน (ไม่เกิน 64 ที)การพิจารณาว่าฝ่ายใด เป็นต่อหรือเป็นรอง ให้คิดเปรียบเทียบศักดิ์ของตัวหมากทั้งสองฝ่ายเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งของตัวหมาก ทั้งสองฝ่ายส่วนศักดิ์ของตัวหมากให้ถือหลักเกณฑ์โดยประมาณ ดังนี้

เรือ 1 ลำ มีค่าเท่ากับ 3 หน่วย

ม้า 1 ตัว มีค่าเท่ากับ 2 หน่วย

โคน 1 ตัว มีค่าเท่ากับ 1.5 หน่วย

เม็ดหรือเบี้ยหงาย 1 ตัว มีค่าเท่ากับ1 หน่วย

เบี้ยคว่ำ 1 ตัว มีค่าเท่ากับ 0.5 หน่วย

10.เมื่อฝ่ายเป็นรองได้เริ่มนับศักดิ์กระดานแล้ว ฝ่ายเป็นต่อได้กินหมากของฝ่ายเป็นรองจนเหลือแต่เพียงขุนตัวเดียว (นับได้ไม่เกิน64 ที) ให้ฝ่ายเป็นรองเปลี่ยนจากการนับศักดิ์กระดานเป็นนับศักดิ์หมากฝ่ายเป็นต่อ

11.เมื่อได้เริ่มนับตามศักดิ์หมากแล้ว ถ้าฝ่ายเป็นรองกินหมากตัวใดตัวหนึ่งของฝ่ายเป็นต่อก็มิให้เปลี่ยนแปลงการนับเป็นอย่างอื่นให้คงนับตามศักดิ์เดิมไปจนถึงที่สุด ตัวอย่าง เช่นฝ่ายเป็นต่อมีขุน 1 และเรือ 2 ส่วนฝ่ายเป็นรองมีขุน 1 และเรือ 1 และกำลังนับศักดิ์กระดานอยู่ ได้นำเรือไปต่อเรือของฝ่ายเป็นต่อ ฝ่ายเป็นต่อได้เดินเรือไปกินเรือของฝ่ายเป็นรอง ฝ่ายเป็นรองจะเริ่มนับศักดิ์หมากเรือ 2 ลำ (นับ 8) โดยนับ 5 ทันทีพร้อมกับกินเรือของฝ่ายเป็นต่อ (ถ้ากินได้) โดยนับศักดิ์หมากเรือ 2 ลำ (นับ 8) ต่อไป ไม่ใช่นับ 16 (ในกรณีฝ่ายเป็นรองเดินขุนไปกินเรือของฝ่ายเป็นต่อได้)

12.ขณะที่ฝ่ายเป็นรองนับศักดิ์กระดานก็มีสิทธิที่จะชนะได้ตลอดเวลา เมื่อฝ่ายเป็นรองเห็นว่ามีหนทางที่จะเอาชนะได้จะต้องหยุดนับทันที ถ้ายังไม่หยุดนับฝ่ายเป็นต่อขอเสมอได้ และเมื่อฝ่ายเป็นรองหยุดนับแล้วเห็นว่าไม่อาจจะเอาชนะได้ จะกลับมานับใหม่ก็ได้แต่ต้องเริ่มนับตั้งแต่ 1 เป็นต้นไป

13.ถ้าทั้งสองฝ่ายมีตัวหมาก หรือ ศักดิ์หมากเท่ากัน หรือเป็นรองศักดิ์หมากเพียงเล็กน้อย

(ไม่เกิน 1 หน่วย)

เฉพาะกรณีศักดิ์หมากหรือตัวหมากเท่ากันนั้น ฝ่ายหนึ่งเหลือเวลาไม่เกิน 5 นาที อีกฝ่ายหนึ่งเหลือเวลาไม่เกิน

15 นาที ให้อำนาจกรรมการที่จะตัดสินให้เสมอกันได้หรือให้ฝ่ายที่ขอเสมอนับศักดิ์กระดาน

ฝ่ายที่เป็นต่อศักดิ์หมากมีเวลาเหลือไม่เกิน 5 นาที มีสิทธิร้องขอให้กรรมการพิจารณาที่จะตัดสินให้เสมอกัน หรือให้ฝ่ายที่เป็นต่อศักดิ์หมากแต่เป็นรองในเรื่องเวลามีสิทธินับศักดิ์กระดานได้

14.ผู้เล่นฝ่ายที่เป็นต่อในเรื่องศักดิ์หมากตั้งแต่ 2 หน่วยขึ้นไปและมีเวลาเหลือต่ำกว่า 5 นาทีมีสิทธิร้องขอให้กรรมการพิจารณาให้เสมอได้ด้วยเหตุผลว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในกระดานโดยให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการแต่ถ้ามีเวลาเหลือ 3 นาทีแล้วไม่ร้องขอให้ถือว่าต้องเล่นต่อไปจนจบกระดาน

15. ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายมีเบี้ยคว่ำขัดกันอยู่หงายไม่ได้ หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถหงายเบี้ยได้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม และการเดินหมากไม่มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเป็นเวลานานพอสมควรฝ่ายเป็นรองซึ่งเหลือเวลาไม่เกิน 10 นาที และฝ่ายเป็นต่อมีเวลาเหลือไม่เกิน 20 นาที อาจร้องขอกรรมการเพื่อพิจารณาให้นับศักดิ์กระดานได้เป็นกรณีพิเศษ ถ้ามีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ในระหว่างการนับศักดิ์กระดานนี้ เช่น หงายเบี้ยเพิ่มขึ้นตัวหมากเหลือน้อยลง แต่ยังมีเบี้ยคว่ำเหลืออยู่ก็ให้นับศักดิ์กระดานต่อไปตามเดิม เมื่อทั้งสองฝ่ายหงายเบี้ยหมดแล้วหรือไม่มีเบี้ยคว่ำเหลืออยู่เลย ให้ฝ่าย

เป็นรองในเรื่องเวลากลับมานับศักดิ์กระดานใหม่ให้เริ่มตั้งแต่ 1 เป็นต้นไป

16. ฝ่ายที่ชนะเวลา จะต้องมีตัวหมากไม่น้อยกว่า ขุน 1,เรือ 1, หรือ ขุน 1, โคน 1, เม็ด 1, หรือ ขุน 1, ม้า 1,เม็ด 1, หรือ ขุน 1, เบี้ยเทียม 3

17. เกมเสมอในกรณีต่อไปนี้

หมากอับ

โดยการยินยอมของทั้งสองฝ่าย

โดยการเดินหมากไป กลับ 3 ครั้ง (ไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน) และรูปหมากไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม

โดยที่หมากในกระดานไม่สามารถทำให้คู่ต่อสู้แพ้ได้ (ดูข้อ 16)

18. การตัดสินของคณะกรรมการถือว่าสิ้นสุด

19.นักกีฬาทุกคนควรมีน้ำใจ และมารยาทในการแข่งขัน ถ้าผู้ใดฝ่าฝืน และกรรมการได้ตักเตือนแล้ว 2 ครั้งไม่ปฏิบัติตาม กรรมการอาจจะตัดสิทธิในการแข่งขันได้

หมากรุกได้วางเกณฑ์การรุกไล่เป็นมาตรฐานดังต่อไปนี้

เรือ ฝ่ายไล่มีเรือกับขุน ฝ่ายหนีมีแต่ขุน ถ้าฝ่ายไล่มีเรือลำเดียวมีสิทธิเดินรุกไล่ได้ 16 ตา ถ้ามี 2 ลำรุกไล่ได้ 8 ตา เกินกำหนดนี้ถือว่าเสมอกัน

ม้า ฝ่ายไล่มีม้ากับขุน ฝ่ายหนีมีขุน ถ้าฝ่ายไล่มีม้าตัวเดียวมีสิทธิเดินไล่ได้ 64 ตา ถ้ามี 2 ตัวรุกไล่ได้ 32 ตา

โคน ฝ่ายไล่มีโคนตัวเดียว รุกไล่ได้ 44 ตา ถ้าสองตัวรุกไล่ได้ 22 ตา

เบี้ยหงาย ฝ่ายไล่จะมีกี่ตัวก็ตาม มีสิทธิไล่ได้ 64 ตา แม้ฝ่ายหนีจะมีอยู่ด้วย 1 ตัวก็ตาม

กรณีฝ่ายหนีกับฝ่ายไล่มีเรือฝ่ายละลำ ฝ่ายไล่มีเบี้ยธรรมดาหรือเบี้ยหงายก็ตามจะไล่ได้ไม่เกิน 64 ตา ฝ่ายหนีมีเบี้ยหงายฝ่ายไล่มีเบี้ยหงายกับโคน (ทั้งสองฝ่ายมีขุนเสมอ) ไล่ได้ไม่เกิน 64 ตา อย่างนี้ตำราหมากรุกเรียกว่า หอกข้างแคร่

ฝ่ายหนีมีม้า 1 ฝ่ายไล่มีโคน 1 ตัว เบี้ยหงาย 2 ตัว ให้ไล่ได้ไม่เกิน 64 ตา อย่างนี้ตำราเรียก จับม้าอุปการะเพราะม้าคอยเดินหนีออกวงนอกแล้วลอบเข้าทำร้ายได้ในระยะ ห่าง ทำให้โคนกับเบี้ยหงายปั่นป่วนรุกขุนไม่ถนัด

ฝ่ายหนีมีเรือและเบี้ยหงายอย่างละตัว ฝ่ายไล่มี เรือ โคน และเบี้ยหงายเช่นกัน ตำรากลนี้เรียกลูกติดแม่ ไล่จนยาก เพราะเรือกับเบี้ยแอบบังขุนอยู่เรื่อยๆ กำหนดให้ไล่ได้ 64 ตา

ฝ่ายหนีมีโคนเรือ ฝ่ายไล่มี โคน เรือ เบี้ยหงาย และม้าไล่ได้ 64 ตา ฝ่ายหนีจะเอาโคนกับเรือผูกป้องกันให้ขุนมีทางหนีได้มาก กลนี้เรียกว่า หนุมานอาสา

ฝ่ายหนีมีเบี้ยหงาย โคน ฝ่ายไล่มีเรือและเม็ดไล่ได้ 64 ตา กลนี้เรียกควายสู้เสือ

ฝ่ายหนีจะเดินโคนกับเบี้ยติดขุนไว้โดยทแยงตาบังขุนเอาตัวรอดอยู่เสมอ ฝ่ายหนีมีเรือ 1ลำ

ฝ่ายไล่มีโคน 1 เบี้ย 3 ไล่ได้ 64 ตา ฝ่ายหนีเดินเรือติดขุนให้ดีอาจตีเสมอได้เรียกว่า อู่ทอง หนีห่า

ฝ่ายหนีมีเรือ 1 ลำ ฝ่ายไล่มีม้า 1 ตัว เบี้ย 3 ตัว ไล่ได้ 64 ตา เรียกว่า พรานล่าเนื้อ

ฝ่ายหนีมีม้า 1 ตัว และเบี้ย ฝ่ายไล่มีเรือและเบี้ยหงาย ฝ่ายหนีพยายามเดินม้า ติดพันกับขุนของตน เมื่อถูกเรือไล่รุกก็เดินม้าก้าวสกัดปิดรุกและเดินเบี้ยผูกให้ดี อาจเอาตัวรอดได้ อย่างนี้เรียกว่า นกกระจาบทำรัง

ฝ่ายหนีมีโคน 1 ตัว ฝ่ายไล่มีม้า 1 ตัว และเบี้ย 2 ตัว ไล่ได้ 64 ตา ฝ่ายหนี เดินโคนแอบบังขุนให้ดีก็ไม่แพ้ เรียกว่า คลื่นกระทบฝั่ง

ฝ่ายหนีมีโคนและเรืออย่างละ 1 ฝ่ายไล่มีเรือ 2 ลำ ไล่ได้ 64 ตา ฝ่ายหนีเดิน โคนกันขุนไว้ เอาเรือคอยออกสกัดฝ่ายไล่ให้ปั่นป่วน เรียกกลนี้ว่า หมูหลบหอก

กลหมากทั้ง 10 ที่กล่าวมาแล้วนี้เป็นกลเบื้องต้นที่ผู้เล่นจะต้องกำหนดจดจำ และ ฝึกฝนตนเองให้คล่องแคล่วฉับไวทันกาล จึงจะประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อถึงระดับ หมากรุกกล ซึ่งมี 200 กว่ากลนั้นมีวิธีเล่นวิจิตรพิสดารมาก ผู้เล่นควรศึกษาวิธีการต่างๆ ให้เจนใจ ทั้งทางหนีทีไล่จะได้ประโยชน์อย่างมาก และได้ชื่อว่ามีความสามารถในการเดิน หมากอย่างแท้จริง