กฎกติกาหมากฮอส
ข้อ 1 ความหมายของกีฬาหมากฮอส
“หมากฮอส” เป็นกีฬาพื้นบ้านของไทย นิยมเล่นกันโดยทั่วไปทุกเพศ ทุกวัย เป็นกีฬาที่เล่นกันระหว่างผู้เล่น 2 คน โดยการเดินหมากไปบนกระดานสี่เหลี่ยมจัตุรัส เอาชนะแก่กัน เมื่อผู้เล่นฝ่ายแพ้หมดตาเดินหรือหมดตัวเดิน หรือยอมแพ้ หรือถูกปรับให้แพ้
ข้อที่ 2 อุปกรณ์การเล่น
กระดานหมากฮอส เป็นกระดานรูปสี่เหลี่ยมรูปจัตุรัส มี 64 ช่อง เช่นเดียวกับกระดานหมากรุกของไทย แบ่งด้านกว้าง ด้านยาว เป็น 8 ช่อง ทาสี 2 สีสลับกัน “ตัวหมาก” ทำด้วยไม้หรือพลาสติก รูปวงกลม เหมือนตัวเบี้ย หมากรุกไทย แต่ขนาดใหญ่กว่า มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม. การแข่งขันหมากฮอสประเภท 8 ตัว จะมีหมากทั้งหมด 16 ตัว แบ่งเป็นหมากขาวและหมากดำฝ่ายละ 8 ตัว การแข่งขันประเภทหมาก 12 ตัว (นิยมเล่นกันทางภาคเหนือโดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่) มีหมากทั้งหมด 24 ตัว แบ่งเป็นหมากขาวและหมากดำฝ่ายละ 12 ตัว
ข้อ 3 การตั้งหมาก
ตำแหน่งเริ่มต้นก่อนการเดินหมาก ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายนั่งหันหน้าเข้าหากัน วางกระดานไว้ตรงกลางระหว่างผู้เล่น หมากฮอสประเภทตัวหมาก 8 ตัว วางตำแหน่งหมากอยู่ที่ช่องตาเดินสีดำ แถวหลังสุด และแถวถัดขึ้นมา แถวละ 4 ตัว หมากฮอสประเภทตัวหมาก 12 ตัว วางตำแหน่งหมากอยู่ในช่องตาเดินสีดำแถวหลังสุด และแถวถัดขึ้นมาอีก 2 แถวๆ ละ 4 ตัว
ข้อ 4 กรรมการผู้ตัดสิน
กำหนดให้มีกรรมการผู้ตัดสิน 1 คน ต่อคู่แข่งขัน 1 คู่ ทำหน้าที่ต่อไปนี้
ควบคุมการแข่งขันให้เป็นไปตามกฎ กติกา มารยาท หากมีข้อขัดแย้ง ผู้ตัดสินมีหน้าที่พิจารณาข้อขัดแย้งนั้น พร้อมบันทึกผลการแข่งขันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนการแข่งขัน เรียกนักกีฬาเข้าประจำโต๊ะแข่งขันพร้อมกับดำเนินการเสี่ยงให้กับนักกีฬาทั้ง 2 ฝ่าย ผู้ใดชนะการเสี่ยงจะมีสิทธิเลือกเดินก่อนหรือหลังได้ ก่อนเริ่มแข่งขันกรรมการผู้ตัดสินต้องขาดว่า ”กระดานที่…คุณ…เดินก่อน” เมื่อจบการแข่งขันในกระดานนั้นกรรมการต้องแจ้งผลการแข่งขัน “กระดานที่…คุณ…ชนะ ต่อไปกระดานที่…คุณ…เดิน” ในระหว่างการแข่งขัน การจับเวลาเดินหมาก กรรมการผู้ตัดสินจะ เตือนเมื่อเวลาผ่านไป 1 นาที 30 วินาที พร้อมกับยกป้ายเตือนสีเหลือง เมื่อเวลาผ่านไป 1 นาที 50 วินาที กรรมการผู้ตัดสินจะเตือนด้วยป้ายสีเหลืองอีกครั้ง เมื่อครบ 2 นาที กรรมการจะยกป้ายสีแดงถือว่า “แพ้ในกระดานนั้นแล้ว” กรรมการผู้ตัดสินได้ตัดสินแล้วจะอุทรณ์อื่นใดมิได้
ในกรณีหมากเดินวนเวียนไปมาเป็นเวลานานพอสมควรจะกำหนดให้ฝ่ายขอใช้สิทธิดินหมากต่อไปอีก 16 ครั้ง โดยนักกีฬาผู้ร้องขอเป็นผู้นับ และกรรมการผู้ตัดสินต้องนับทวนเสมอ หากมีข้อขัดแย้งอันใดให้อยู่ในดุลยพินิจของกรรมการผู้ตัดสิน
กรณีนักกีฬากระทำผิด กฎ กติกา มารยาท อย่างร้ายแรง เช่น สูบบุหรี่ เสพของมึนเมา แสดงกิริยาวาจาดูถูกเสียดสี ล้อเลียน ยั่วยุอารมณ์ หรือทำลายสมาธิผู้ร่วมแข่งขัน กรรมการผู้ตัดสินสามารถพิจารณาให้ใบแดง หรือเชิญออกจากการแข่งขันได้ ถือว่าแพ้เกมการแข่งขันนั้น กรณีผู้ชม ห้ามพูดวิจารณ์การเดินหมาก อันเป็นการทำลายสมาธิผู้แข่งขัน หรือส่อเจตนาไปในแนวทางที่จะเป็นการส่งสัญญาณ กรรมการผู้ตัดสินสามารถเชิญออกนอกบริเวณการแข่งขันได้ เกี่ยวกับตัวกรรมการผู้ตัดสินในแต่ละคู่ที่แข่งขัน ในกรณีที่มีเหตุผลอันควร ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันมีอำนาจที่จะเปลี่ยนตัวกรรมการได้
ข้อ 5 การเดินหมาก
การเดินหมากให้ใช้วิธีจับตัววางตาย คือ ผู้เล่นสัมผัสหมากตัวใด ต้องจับตัวนั้นเดิน เปลี่ยนไปจับตัวอื่นไม่ได้ เว้นแต่หมากตัวที่สัมผัสนั้นไม่มีตาเดิน เมื่อจับหมากเดินและวางหมากลงที่ตาใด แม้ยังไม่ปล่อยมือ ก็จะเปลี่ยนไปวางตาอื่นไม่ได้ เว้นแม้แต่หมากตัวนั้นไม่มีตาเดินหรือคู่แข่งขันเตือนว่ามีหมากตัวอื่นมีโอกาสกินได้ กำหนดให้มีการเสี่ยงเพื่อหาผู้มีสิทธิเลือกเดินหมากก่อน-หลังในกระดานแรก ผู้เสี่ยงชนะสามารถเลือกเดินก่อนหรือหลังก็ได้ ต่อไปให้ผลัดกันเดินก่อนคนละ 1 กระดาน
ขณะที่ยังไม่เดินหมาก ห้ามยื่นมือเข้าไปในกระดาน หรือทำท่าชี้จะเดินหมากตัวต่างๆ ในกระดาน หากต้องการขยับตัวหมากจัดให้ตรงตามตำแหน่ง ต้องขออนุญาตก่อน โดยบอกว่า “ขอจัดหมาก” ถ้าผู้แข่งขันฝ่ายหนึ่งผิดกฎ กติกา มารยาท เช่น จงใจเดินข้ามตาหรือไม่กินหมากฝ่ายตรงข้าม ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของตนเองแต่คู่แข่งขันไม่ทักท้วงหรือเตือน ก่อนจะเดินหมากขงตนเองให้ถือว่าการแข่งขันเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎ กติกา มารยาท แล้ว ผู้เล่นที่กระทำผิดระเบียบขณะเดินหมาก และคู่แข่งขันได้ทักท้วงก่อนที่จะเดินหมากของตนเอง กรรมการจะยกใบเหลืองเตือน 2 ครั้งหากยังฝ่าฝืนอีกเป็นครั้งที่ 3 กรรมการจะยกใบแดงตัดสินให้แพ้กระดานนั้นหรือตลอดการแข่งขันก็ได้ การตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สุด จะอุทธรณ์อื่นใดมิได้
เวลาที่ใช้ในการเดินหมากแต่ละครั้ง กำหนดให้ครั้งละ 2 นาทีเมื่อเวลาผ่านไป 1 นาที 30 วินาที กรรมการผู้ตัดสินจะยกป้ายเหลืองเป็นสัญญาณเตือนว่า เหลือเวลาคิดไตร่ตรองอีก 30 วินาที เมื่อเวลาผ่านไป 1 นาที 50 วินาที กรรมการจะยกธงเหลืองเตือนเป็นครั้งที่ 2 เมื่อครบ 2 นาที กรรมการจะยกธงแดงเป็นสัญญาณให้เดินหมาก ถ้าไม่เดิน จะถูกปรับแพ้ในกระดานนั้น
ในแต่ละกระดานที่แข่งขัน ผู้แข่งขันมีสิทธิขอเวลานอกหรือเวลาพิเศษเพื่อคิดไตร่ตรอง แต่ละฝ่ายกระทำได้ 2 ครั้งๆ ละ 5 นาที หรือจะขอ 10 นาที แต่ขอได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น การขอเวลานอก ผู้ขอต้องแจ้งให้กรรมการผู้ตัดสินทราบล่วงหน้าก่อนจะถูกกรรมการยกธงแดงเตือนให้เดินหมาก ตัวหมากที่ถือเป็น “ฮอส” ได้แก่ตัวหมากที่เดินไปถึงตาที่อยู่แถวหลังสุดของฝ่ายตรงข้าม ให้คู่แข่งขันใช้หมากสีเดียวกันอีกตัวหนึ่งวางซ้อนไว้ เป็นสัญลักษณ์ของการเป็น “ฮอส” ซึ่งตัวหมากที่เป็น “ฮอส” สามารถเดินหน้า หรือถอยหลังได้ตามทแยงทั้ง 4 ด้านโดยไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เดินและ “ฮอส” สามารถกินได้หลายต่อ ได้หลายแบบ เลือกกินแบบใดก็ได้
ข้อ 6 การกินหมาก
การกินหมาก จะเกิดขึ้นได้เมื่อหมากของฝ่ายหนึ่งขวางทางเดินหมากของอีกฝ่ายหนึ่ง และมีตาว่างอยู่ในแนวเดียวกัน กับหมากที่ขวาง ฝ่ายที่ถูกขวางต้อง “กิน” โดยจับหมากของตนเองที่ถูกขวางทางอยู่ไปวางที่ตาว่างนั้น แล้วยกหมากที่ถูกกิน ออกจากกระดาน การกินหมาก ทั้งหมากประเภท 8 ตัว และ 12 ตัว ให้กินกลับไปกลับมาได้หลายต่อ โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้กินกรณีอีกฝ่ายหนึ่งถูกกินแต่ฝ่ายกินมองไม่เห็นหรือเผลอเรอ ฝ่ายถูกกินจะบังคับให้กินหรือปล่อยเลยตามเลยก็ได้ โดยกรรมการไม่มีสิทธิเตือน เมื่อมีโอกาสกินหลายแบบ หลายต่อ “ฝ่ายกิน” ต้องแสดงการกินที่ละตัวให้ชัดเจน จนกว่า “การกิน” จะสิ้นสุดลง โดยห้ามจับตัวหมากของผู้แข่งขันก่อนการกินมิฉะนั้นจะถูกบังคับให้กินได้
ข้อ7 กฎ กติกา ว่าด้วยการแพ้ชนะ
ผู้แข่งขันทั้ง 2 ฝ่าย จะแพ้ หรือชนะ กันและกัน ในแต่ละกระดานเกิดจากกรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้
• ฝ่ายแพ้หมดตัวเดิน
• ฝ่ายแพ้หมดตาเดิน
• ฝ่ายแพ้ยอมแพ้
• ถูกปรับให้แพ้ ซึ่งจะเกิดจากกรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้
ไม่ยอมปฎิบัติตามกฎ กติกา มารยาทของการแข่งขัน กรรมการเตือนแล้วแต่ยังไม่เชื่อฟัง
ไม่ยอมปฎิบัติตามคำเตือนของคู่แข่งขันอันถูกต้องตามกฎ กติกา การเดิหมากข้อ 5
มีการจงใจเอาตัวหมากออกไปหรือเพิ่มเข้ามา หรือจงใจทำให้ตัวหมากเคลื่อที่ตั้ง
ใช้ตำรา หรือเอกสารเกี่ยวกับวิธีเดินหมากฮอสมาช่วยในการคิดไตร่ตรองการเดินหมาก
ขออนุญาตเข้าห้องน้ำ หรือไปทำธุรกิจใดๆ แล้วใช้กระดานทดลองเดิน
มาทำการแข่งขันช้ากว่าเวลาที่กำหนด 20 นาที เว้นแต่คู่แข่งและคณะกรมการฯ ยินยอมกฎ กติกา การถูกปรับ แพ้ ข้อ (1) ถึง
ข้อ (6)เป็นการปรับแพ้เฉพาะในกระดานที่แข่งขัน
มาทำการแข่งขันช้าเกินกว่าเวลาที่กำหนด 60 นาที ถูกปรับให้แพ้ในรายการที่แข่งขันในวันนั้นๆ
ข้อ 8 กฎ กติกา ว่าด้วยการเสมอ
ผู้แข่งขันทั้ง 2 ฝ่าย ผลแข่งขันจะเสมอกัน เกิดจากกรณีใดกรณีหนึ่ง
ต่อไปนี้
• การแข่งขันยังไม่มีผลแพ้ชนะ และคู่แข่งขันสมยอมให้เสมอกัน
• มีการเดิน “หมากล้อเลียน” กันเกินกว่า 3 ครั้ง
• มีการเดิน “หมากวนเวียน” ไปมา เป็นเวลานานพอสมควรแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะแพ้ชนะกัน ในกรณีนี้ผู้แข่งขันฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีสิทธิขอจำกัดจำนวนครั้งที่จะเดินเพื่อยุติการแข่งขันได้ หากกรรมการเห็นชอบจะกำหนดให้ฝ่ายที่ขอใช้สิทธิเดินหมากต่อไปอีก 16 ครั้ง โดยนักกีฬาผู้ร้องขอเป็นผู้นับและกรรมการเป็นผู้นับทวน เมื่อครบ 16 ครั้งแล้ว ปรากฏว่าสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้ถือว่าหมากเกมนั้น “เสมอกัน” หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปให้แข่งขันต่อไปจนกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ
ข้อ 9 กฎ กติกา ว่าด้วยการนับคะแนน
• การแข่งขันรอบแรก ซึ่งเป็นรอบคัดเลือก ให้แข่งขันชุดละ 4 กระดาน โดยแบ่งออกเป็นสายการแข่งขัน หรือกลุ่ม และกำหนดให้มีการนับคะแนนได้-เสีย ดังนี้
ชนะได้ 3 คะแนน เสมอได้ 1 คะแนน แพ้ได้ 0 คะแนน
เมื่อการแข่งขันแต่ละสายสิ้นสุดลง นับคะแนนรวมเท่ากัน ให้ใช้วิธีนับจำนวนผลต่างกระดานได้เสีย (กระดานชนะ-แพ้) หากผลต่างกระดานได้เสียยังเท่ากัน ให้ถือว่าผู้ที่มีกระดานชนะมากกว่า เป็นผู้ชนะ หากกระดานชนะเท่ากัน ให้นักกีฬาแข่งขันกันใหม่แบบ “กระดานทอง” โดยเปลี่ยนเบี้ยเป็นฮอตในตาที่ 2 และ 31 สำหรับในกระดานที่ 2,3,4…ฯลฯ ให้เพิ่มฮอสฝ่ายละ 1 ตัว ในตาที่ 3 และ 30 จนกว่าจะมีผู้ชนะ
• ในรอบแพ้คัดออก ซึ่งเป็นรอบที่ 2 รอบรองชนะเลิศ จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ให้แข่งขัน 6 กระดาน หากยังเสมอกัน ให้แข่งต่ออีก 4 กระดาน โดยใช้วิธีผลัดกันต่อเสมอเป็นฝ่ายแพ้โดยก่อนการแข่งขัน ให้มีการเสี่ยงทายกัน ผู้ที่เสี่ยงทายชนะสามารถใช้สิทธิเลือกให้คู่แข่งขันเดินก่อนหรือตัวเองเดินก่อนได้ เมื่อครบ 4 กระดานแล้วยังไม่สามารถชนะกันได้ ให้แข่งแบบ “กระดานทอง”
กฎกติกาหมากรุก
1.ก่อนการแข่งขันให้มีการเสี่ยง ผู้ชนะในการเสี่ยงมีสิทธิเลือกเดินก่อนหรือหลัง ส่วนกระดานที่ 2 ให้ทั้ง 2ฝ่าย สลับกันเดินโดยต้องเปลี่ยนข้าง สำหรับกระดานที่ 3เป็นต้นไปให้มีการเสี่ยงใหม่ในรอบที่มีการแข่งขันซึ่งกำหนดเวลาฝ่ายละ 1 ชั่วโมง 30 นาทีต่อกระดาน จะต้องมีการจดบันทึกแต้ม ฝ่ายที่เลือกเดินก่อนจะต้องเดินหมาก
สีขาว ทุกครั้ง
2.เมื่อถึงเวลากำหนดการแข่งขัน ถ้าผู้แข่งขันทั้งสองฝ่ายยังไม่มากรรมการจะกดนาฬิกาของฝ่ายดำ (ปกติจะวางอยู่ด้านขวามือของฝ่ายดำ) ถ้าผู้แข่งขันมาเพียงฝ่ายเดียวให้ฝ่ายนั้นกดนาฬิกาได้
เมื่อทั้งสองฝ่ายมาพร้อมที่จะทำการแข่งขันแล้ว ให้กรรมการเสี่ยงและตั้งเวลาใหม่ให้ถูกต้อง (ผู้ที่มาช้าจะเสียเวลาในการแข่งขันของตนเอง)
3.ในระหว่างการแข่งขัน ผู้แข่งขันจะต้องกดนาฬิกาด้วยตนเอง โดยใช้มือข้างที่เดินหมาก(ขวาหรือซ้ายก็ได้) ห้ามบุคคลภายนอกเตือน
ผู้แข่งขันเรื่องกดนาฬิกา เมื่อนาฬิกาของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเหลือเวลาไม่เกิน 5 นาที ให้แจ้งกรรมการทราบและตัดสินเมื่อนาฬิกาของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหมดเวลาลง (ธงตก)
4.เมื่อมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน ให้คู่แข่งขันหรือกรรมการหยุดนาฬิกาของทั้งสองฝ่ายเป็นการชั่วคราวจนกว่ากรรมการจะได้พิจารณาตัดสินปัญหาเรียบร้อยแล้ว จึงให้กรรมการกดนาฬิกาให้คู่แข่งขันทำการแข่งขันต่อไปจนจบกระดาน
5.ถ้ามีการกำหนดให้เวลาในการแข่งขันฝ่ายละ 1 ชั่วโมง 30 นาที ต่อกระดานขึ้นไป ผู้แข่งขันจะต้องจดบันทึกการเดินหมากด้วยตนเองทั้งของตนเองและของคู่ต่อสู้ ฝ่ายใดเหลือเวลาเพียง 3 นาที มีสิทธิไม่ต้องจดบันทึกการเดินหมาก แต่คู่ต่อสู้จะต้องจดต่อไปตามปกติจนกว่าจะเหลือเวลาเพียง 3 นาที จึงไม่ต้องจดเช่นเดียวกับฝ่ายแรก
6.ผู้ที่จดบันทึกการเดินหมากไม่ได้หรือไม่จดบันทึก จะหมดสิทธิในการแข่งขันรอบที่มีการจดบันทึกในการเดินหมากรุก
7.ผู้แข่งขันจับหรือถูกต้องหมากตัวใดแล้ว จะต้องเดินหมากตัวนั้นและเมื่อปล่อยตัวหมากลงในตาใดแล้วจะเปลี่ยนตาเดินใหม่ไม่ได้
ถ้าผู้แข่งขันจับ หรือถูกต้องหมากตัวใดแล้วเดินไม่ได้กรรมการจะอนุญาตให้เดินหมากตัวอื่นที่จับต่อไปถ้าผู้แข่งขันต้องการจะจัดหรือขยับตัวหมากให้ตั้งตรงตามตำแหน่งจะต้องบอกก่อนว่า “ขอขยับตัวหมาก”
8.เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่มีเบี้ยคว่ำ ฝ่ายหนึ่งเหลือขุนกับหมากตัวอื่นอีก ส่วนฝ่ายหนึ่งเหลือขุนเพียงตัวเดียวฝ่ายหลังมีสิทธินับตามศักดิ์
9.เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่มีเบี้ยคว่ำ ฝ่ายหนึ่งเหลือขุนกับหมากตัวอื่นอีก ส่วนฝ่ายหนึ่งเป็นรองมีสิทธินับศักดิ์กระดาน (ไม่เกิน 64 ที)การพิจารณาว่าฝ่ายใด เป็นต่อหรือเป็นรอง ให้คิดเปรียบเทียบศักดิ์ของตัวหมากทั้งสองฝ่ายเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งของตัวหมาก ทั้งสองฝ่ายส่วนศักดิ์ของตัวหมากให้ถือหลักเกณฑ์โดยประมาณ ดังนี้
☻ เรือ 1 ลำ มีค่าเท่ากับ 3 หน่วย
☻ ม้า 1 ตัว มีค่าเท่ากับ 2 หน่วย
☻ โคน 1 ตัว มีค่าเท่ากับ 1.5 หน่วย
☻ เม็ดหรือเบี้ยหงาย 1 ตัว มีค่าเท่ากับ1 หน่วย
☻ เบี้ยคว่ำ 1 ตัว มีค่าเท่ากับ 0.5 หน่วย
10.เมื่อฝ่ายเป็นรองได้เริ่มนับศักดิ์กระดานแล้ว ฝ่ายเป็นต่อได้กินหมากของฝ่ายเป็นรองจนเหลือแต่เพียงขุนตัวเดียว (นับได้ไม่เกิน64 ที) ให้ฝ่ายเป็นรองเปลี่ยนจากการนับศักดิ์กระดานเป็นนับศักดิ์หมากฝ่ายเป็นต่อ
11.เมื่อได้เริ่มนับตามศักดิ์หมากแล้ว ถ้าฝ่ายเป็นรองกินหมากตัวใดตัวหนึ่งของฝ่ายเป็นต่อก็มิให้เปลี่ยนแปลงการนับเป็นอย่างอื่นให้คงนับตามศักดิ์เดิมไปจนถึงที่สุด ตัวอย่าง เช่นฝ่ายเป็นต่อมีขุน 1 และเรือ 2 ส่วนฝ่ายเป็นรองมีขุน 1 และเรือ 1 และกำลังนับศักดิ์กระดานอยู่ ได้นำเรือไปต่อเรือของฝ่ายเป็นต่อ ฝ่ายเป็นต่อได้เดินเรือไปกินเรือของฝ่ายเป็นรอง ฝ่ายเป็นรองจะเริ่มนับศักดิ์หมากเรือ 2 ลำ (นับ 8) โดยนับ 5 ทันทีพร้อมกับกินเรือของฝ่ายเป็นต่อ (ถ้ากินได้) โดยนับศักดิ์หมากเรือ 2 ลำ (นับ 8) ต่อไป ไม่ใช่นับ 16 (ในกรณีฝ่ายเป็นรองเดินขุนไปกินเรือของฝ่ายเป็นต่อได้)
12.ขณะที่ฝ่ายเป็นรองนับศักดิ์กระดานก็มีสิทธิที่จะชนะได้ตลอดเวลา เมื่อฝ่ายเป็นรองเห็นว่ามีหนทางที่จะเอาชนะได้จะต้องหยุดนับทันที ถ้ายังไม่หยุดนับฝ่ายเป็นต่อขอเสมอได้ และเมื่อฝ่ายเป็นรองหยุดนับแล้วเห็นว่าไม่อาจจะเอาชนะได้ จะกลับมานับใหม่ก็ได้แต่ต้องเริ่มนับตั้งแต่ 1 เป็นต้นไป
13.ถ้าทั้งสองฝ่ายมีตัวหมาก หรือ ศักดิ์หมากเท่ากัน หรือเป็นรองศักดิ์หมากเพียงเล็กน้อย
(ไม่เกิน 1 หน่วย)
☻ เฉพาะกรณีศักดิ์หมากหรือตัวหมากเท่ากันนั้น ฝ่ายหนึ่งเหลือเวลาไม่เกิน 5 นาที อีกฝ่ายหนึ่งเหลือเวลาไม่เกิน
15 นาที ให้อำนาจกรรมการที่จะตัดสินให้เสมอกันได้หรือให้ฝ่ายที่ขอเสมอนับศักดิ์กระดาน
☻ ฝ่ายที่เป็นต่อศักดิ์หมากมีเวลาเหลือไม่เกิน 5 นาที มีสิทธิร้องขอให้กรรมการพิจารณาที่จะตัดสินให้เสมอกัน หรือให้ฝ่ายที่เป็นต่อศักดิ์หมากแต่เป็นรองในเรื่องเวลามีสิทธินับศักดิ์กระดานได้
14.ผู้เล่นฝ่ายที่เป็นต่อในเรื่องศักดิ์หมากตั้งแต่ 2 หน่วยขึ้นไปและมีเวลาเหลือต่ำกว่า 5 นาทีมีสิทธิร้องขอให้กรรมการพิจารณาให้เสมอได้ด้วยเหตุผลว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในกระดานโดยให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการแต่ถ้ามีเวลาเหลือ 3 นาทีแล้วไม่ร้องขอให้ถือว่าต้องเล่นต่อไปจนจบกระดาน
15. ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายมีเบี้ยคว่ำขัดกันอยู่หงายไม่ได้ หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถหงายเบี้ยได้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม และการเดินหมากไม่มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเป็นเวลานานพอสมควรฝ่ายเป็นรองซึ่งเหลือเวลาไม่เกิน 10 นาที และฝ่ายเป็นต่อมีเวลาเหลือไม่เกิน 20 นาที อาจร้องขอกรรมการเพื่อพิจารณาให้นับศักดิ์กระดานได้เป็นกรณีพิเศษ ถ้ามีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ในระหว่างการนับศักดิ์กระดานนี้ เช่น หงายเบี้ยเพิ่มขึ้นตัวหมากเหลือน้อยลง แต่ยังมีเบี้ยคว่ำเหลืออยู่ก็ให้นับศักดิ์กระดานต่อไปตามเดิม เมื่อทั้งสองฝ่ายหงายเบี้ยหมดแล้วหรือไม่มีเบี้ยคว่ำเหลืออยู่เลย ให้ฝ่าย
เป็นรองในเรื่องเวลากลับมานับศักดิ์กระดานใหม่ให้เริ่มตั้งแต่ 1 เป็นต้นไป
16. ฝ่ายที่ชนะเวลา จะต้องมีตัวหมากไม่น้อยกว่า ขุน 1,เรือ 1, หรือ ขุน 1, โคน 1, เม็ด 1, หรือ ขุน 1, ม้า 1,เม็ด 1, หรือ ขุน 1, เบี้ยเทียม 3
17. เกมเสมอในกรณีต่อไปนี้
☻ หมากอับ
☻ โดยการยินยอมของทั้งสองฝ่าย
☻ โดยการเดินหมากไป – กลับ 3 ครั้ง (ไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน) และรูปหมากไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม
☻ โดยที่หมากในกระดานไม่สามารถทำให้คู่ต่อสู้แพ้ได้ (ดูข้อ 16)
18. การตัดสินของคณะกรรมการถือว่าสิ้นสุด
19.นักกีฬาทุกคนควรมีน้ำใจ และมารยาทในการแข่งขัน ถ้าผู้ใดฝ่าฝืน และกรรมการได้ตักเตือนแล้ว 2 ครั้งไม่ปฏิบัติตาม กรรมการอาจจะตัดสิทธิในการแข่งขันได้
หมากรุกได้วางเกณฑ์การรุกไล่เป็นมาตรฐานดังต่อไปนี้
✦ เรือ ฝ่ายไล่มีเรือกับขุน ฝ่ายหนีมีแต่ขุน ถ้าฝ่ายไล่มีเรือลำเดียวมีสิทธิเดินรุกไล่ได้ 16 ตา ถ้ามี 2 ลำรุกไล่ได้ 8 ตา เกินกำหนดนี้ถือว่าเสมอกัน
✦ ม้า ฝ่ายไล่มีม้ากับขุน ฝ่ายหนีมีขุน ถ้าฝ่ายไล่มีม้าตัวเดียวมีสิทธิเดินไล่ได้ 64 ตา ถ้ามี 2 ตัวรุกไล่ได้ 32 ตา
✦ โคน ฝ่ายไล่มีโคนตัวเดียว รุกไล่ได้ 44 ตา ถ้าสองตัวรุกไล่ได้
22 ตา
✦ เบี้ยหงาย ฝ่ายไล่จะมีกี่ตัวก็ตาม มีสิทธิไล่ได้ 64 ตา แม้ฝ่ายหนีจะมีอยู่ด้วย 1 ตัวก็ตาม
✦ กรณีฝ่ายหนีกับฝ่ายไล่มีเรือฝ่ายละลำ ฝ่ายไล่มีเบี้ยธรรมดาหรือ
เบี้ยหงายก็ตามจะไล่ได้ไม่เกิน 64 ตา ฝ่ายหนีมีเบี้ยหงายฝ่ายไล่มีเบี้ยหงายกับโคน (ทั้งสองฝ่ายมีขุนเสมอ) ไล่ได้ไม่เกิน 64 ตา
อย่างนี้ตำราหมากรุกเรียกว่า หอกข้างแคร่
✦ ฝ่ายหนีมีม้า 1 ฝ่ายไล่มีโคน 1 ตัว เบี้ยหงาย 2 ตัว ให้ไล่ได้ไม่เกิน 64 ตา อย่างนี้ตำราเรียก จับม้าอุปการะเพราะม้าคอยเดินหนีออก
วงนอกแล้วลอบเข้าทำร้ายได้ในระยะ ห่าง ทำให้โคนกับเบี้ยหงายปั่นป่วนรุกขุนไม่ถนัด
✦ ฝ่ายหนีมีเรือและเบี้ยหงายอย่างละตัว ฝ่ายไล่มี เรือ โคน และ
เบี้ยหงายเช่นกัน ตำรากลนี้เรียกลูกติดแม่ ไล่จนยาก เพราะเรือกับเบี้ยแอบบังขุนอยู่เรื่อยๆ กำหนดให้ไล่ได้ 64 ตา
✦ ฝ่ายหนีมีโคนเรือ ฝ่ายไล่มี โคน เรือ เบี้ยหงาย และม้าไล่ได้ 64 ตา ฝ่ายหนีจะเอา
โคนกับเรือผูกป้องกันให้ขุนมีทางหนีได้มาก กลนี้เรียกว่า หนุมานอาสา
✦ ฝ่ายหนีมีเบี้ยหงาย โคน ฝ่ายไล่มีเรือและเม็ดไล่ได้ 64 ตา กลนี้เรียกควายสู้เสือ
✦ ฝ่ายหนีจะเดินโคนกับเบี้ยติดขุนไว้โดยทแยงตาบังขุนเอาตัวรอดอยู่เสมอ ฝ่ายหนีมีเรือ 1ลำ
✦ ฝ่ายไล่มีโคน 1 เบี้ย 3 ไล่ได้ 64 ตา ฝ่ายหนีเดินเรือติดขุนให้ดีอาจตีเสมอได้เรียกว่า อู่ทอง หนีห่า
✦ ฝ่ายหนีมีเรือ 1 ลำ ฝ่ายไล่มีม้า 1 ตัว เบี้ย 3 ตัว ไล่ได้ 64 ตา
เรียกว่า พรานล่าเนื้อ
✦ ฝ่ายหนีมีม้า 1 ตัว และเบี้ย ฝ่ายไล่มีเรือและเบี้ยหงาย ฝ่ายหนีพยายามเดินม้า ติดพันกับขุนของตน เมื่อถูกเรือไล่รุกก็เดินม้าก้าวสกัดปิดรุกและเดินเบี้ยผูกให้ดี อาจเอาตัวรอดได้ อย่างนี้เรียกว่า นกกระจาบทำรัง
✦ ฝ่ายหนีมีโคน 1 ตัว ฝ่ายไล่มีม้า 1 ตัว และเบี้ย 2 ตัว ไล่ได้ 64 ตา ฝ่ายหนี เดินโคนแอบบังขุนให้ดีก็ไม่แพ้ เรียกว่า คลื่นกระทบฝั่ง
✦ ฝ่ายหนีมีโคนและเรืออย่างละ 1 ฝ่ายไล่มีเรือ 2 ลำ ไล่ได้ 64 ตา ฝ่ายหนีเดิน โคนกันขุนไว้ เอาเรือคอยออกสกัดฝ่ายไล่ให้ปั่นป่วน เรียกกลนี้ว่า หมูหลบหอก
✦ กลหมากทั้ง 10 ที่กล่าวมาแล้วนี้เป็นกลเบื้องต้นที่ผู้เล่นจะต้องกำหนดจดจำ และ ฝึกฝนตนเองให้คล่องแคล่วฉับไวทันกาล จึงจะประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อถึงระดับ
หมากรุกกล ซึ่งมี 200 กว่ากลนั้นมีวิธีเล่นวิจิตรพิสดารมาก ผู้เล่นควรศึกษาวิธีการต่างๆ ให้เจนใจ ทั้งทางหนีทีไล่จะได้ประโยชน์อย่างมาก และได้ชื่อว่ามีความสามารถในการเดิน หมากอย่างแท้จริง
Wynn Las Vegas first resort to bring sports to Vegas - JTM
ตอบลบA 보령 출장안마 look at the Wynn 여수 출장마사지 Las Vegas and Encore on the Las Vegas Strip today. Wynn Las 남원 출장샵 Vegas recently announced the addition of 서울특별 출장샵 a new sports 서귀포 출장안마